วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เครื่องดื่มชูกำลังจากผัก-ผลไม้



ผลกระทบที่ร่างกายได้รับ หลังประสบกับอาการอุจจาระร่วง มักทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย และกระหายน้ำ... เรามีเครื่องดื่มที่ช่วยบำรุงกำลัง แก้อาการหมดเรี่ยวแรง

ผลกระทบที่ร่างกายได้รับ หลังประสบกับอาการอุจจาระร่วง มักทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย และกระหายน้ำ... กินดี มีเครื่องดื่มที่ช่วยบำรุงกำลัง แก้อาการหมดเรี่ยวแรง โดยการนำสารอาหารที่มีคุณค่าจากแอปเปิ้ล สับปะรด ถั่วงอกอัลฟัลฟา และนมถั่วเหลือง มาผสมเป็นเครื่องดื่มชูกำลังให้ร่างกาย

สำหรับ ถั่วงอกอัลฟัลฟา หรือบางครั้งเรียกต้นอ่อนอัลฟัลฟา อ่านแล้วอาจรู้แปลกตา แต่ก็เป็นผักที่ปัจจุบันหาซื้อได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ต หรือบาร์สลัด ในถั่วงอกอัลฟัลฟา รสชาติขมเล็กน้อย กลิ่นคล้ายฝางแห้ง อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ทดแทนฮอร์โมนเอสโตเจนที่ลดลง ลดการเกิดสิว รักษาโรคกระเพาะได้ แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคข้อหรือกล้ามเนื้ออักเสบ และเป็นผักที่เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี หรือผู้ใหญ่อายุ 65 ปีขึ้นไป สตรีมีครรภ์ และหญิงวัยหมดประจำเดือนไม่ควรรับประทาน

นมถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้ มีโปรตีนใกล้เคียงกับโปรตีนที่มีในเนื้อสัตว์ แถมยังเปี่ยมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ ซี ดี อี และวิตามินในกุล่มบีหลายชนิด ไนอาซิน และเลซิทิน ที่ช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ โดยรวมแล้ว นมถั่วเหลือง ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ดี

ส่วนแอปเปิ้ล และสับปะรด ผลไม้ขาประจำที่เป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้า ตงต้องขอสรุปคุณประโยชน์มาเพียงคร่าว ๆ โดยแอปเปิ้ล มีสรรพคุณช่วยล้างพิษ ขณะที่สับปะรดจะช่วยปรับความสมดุลในร่างกายนั่นเอง

เมื่อทราบถึงคุณค่าของผักและผลไม้ในสูตรนี้แล้ว คุณผู้อ่านจำเป็นต้องเตรียมส่วนผสมต่าง ๆ ตามสัดส่วนต่อไปนี้...

แอปเปิ้ล 1 ถ้วย
สับปะรด 1 ถ้วย
ถั่วงอกอัลฟัลฟา 1 ถ้วย
นมถั่วเหลือง 2 ถ้วย
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

ขั้นตอนในการผสม เริ่มจากหั่นแอปเปิ้ลออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ส่วนสับปะรดหั่นออกเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า จากนั้นนำแอปเปิ้ล สับปะรด และถั่วงอกอัลฟัลฟาไปสกัดด้วยเครื่องสกัดน้ำผักและผลไม้ แล้วนำน้ำที่สกัดได้ไปปั่นรวมกับนมถั่วเหลืองด้วยเครื่องปั่น พร้อมทั้งเติมน้ำแข็งป่นลงไป ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดผสมเข้ากันจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่แก้วดื่มได้ทันที

takecareDD@gmail.com
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น