วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

นานาสาระเกี่ยวกับ Samsung Wave คลื่นลูกใหม่พลัง Bada

หากจะพูดถึงมือถือทัชสกรีนแล้ว คงจะต้องนึกถึงแบรนด์ "Samsung" เพราะมือถือจากแบรนด์นี้มาในรูปแบบของทัชสกรีนซะมาก ได้รับความนิยมตั้งแต่ยุคบุกเบิก "F480" ปัจจุบันก็ยังคงมีวางขายอยู่ การันตีคุณภาพว่ามันดีจริง และยังครอบคลุมลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ด้วยรุ่นที่ถูกสุดๆ อย่าง "Samsung One" ยันรุ่น Top ของแบรนด์คือ "i8910 HD"

ที่ผ่านมามือถือทัชสกรีนซัมซุงอาจจะดูซ้ำซากจําเจไปบ้าง เพราะอินเตอร์เฟสอาจจะยังไม่สวยพอที่จะใช้งานได้ลื่นมือ สบายตามากนัก แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ซัมซุงได้ปฏิวัติวงการมือถือทัชสกรีนใหม่ยกแผง ด้วยการนําระบบ TouchWiz UI เวอร์ชั่น 3.0 มาใช้แล้วในมือถือทัชสกรีนรุ่นใหม่ๆ และหน้าจอแบบ Super AMOLED ที่จะมามอบประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอที่สว่าง คมชัดกว่าจอ AMOLED เดิมมาก โดยพระเอกที่เราจะมากล่าวถึงกันวันนี้ ไม่พ้น "Samsung S8500 Wave" สุดยอดฟีเจอร์โฟนใหม่ล่าสุดจากซัมซุงครับ

Samsung S8500 (หรือจะเรียกว่า Samsung Wave ก็ไม่ผิด) เป็นฟีเจอร์โฟนที่มาพร้อมกับ "4 สิ่งใหม่" ของแบรนด์คือ CPU 1GHz แรง เร็ว สะใจกว่าเดิม, ระบบปฏิบัติการ Bada ใหม่ล่าสุด, สุดยอดหน้าจอ Super AMOLED และรุ่นนี้ยังเป็นรุ่นแรกของโลกที่รองรับบลูทูธ 3.0 อีกด้วย แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่รุ่น Top ของแบรนด์ แต่ Samsung Wave ถือว่าเป็นปฐมบทของ "Bada" ที่จะทําให้วงการมือถือทั่วโลกสั่นคลอนแน่นอน เรามาดูสเปคเครื่องกันแบบละเอียดๆ กันดีกว่า

ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องในส่วนของ Samsung Wave เรามาทําความรู้จัก "Bada OS" ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่ซัมซุงพัฒนาขึ้นเองว่า มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร มีจุดประสงค์ไปในทิศทางไหน และแผนในอนาคตเกี่ยวกับ Bada OS ว่าจะดําเนินไปยังไง คําตอบจะรวมไว้ที่นี่ครับ ติดตามชมกันต่อกันได้

Bada OS คืออะไร ?

"Bada" คําแปลในภาษาอังกฤษคือ "มหาสมุทร" สงสัยมั้ยว่าทําไมซัมซุงถึงเลือกชื่อ OS นี้มาใช้งาน ทั้งๆ ที่มีชื่ออื่นที่หรูหรากว่านี้มาก? เหตุผลของซัมซุงเกี่ยวกับชื่อนี้ออกมาน่าสนใจมากครับ และให้ข้อคิดที่ค่อนข้างดีอีกด้วยคือ "มหาสมุทรมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ไม่มีที่สิ้นสุด เปรียบเหมือนการพัฒนา OS ที่ไม่มีที่สิ้นสุด เปิดโอกาสให้ทุกคนมาพัฒนาได้เต็มที่ และคลื่นในมหาสมุทรนั้นก็คือ อุปสรรคที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันฝ่าฟันเพื่ออนาคตที่สดใส" สําหรับ Bada OS พัฒนาขึ้นจากพื้นฐาน Linux ใช้งานบนอินเตอร์เฟส TouchWiz UI 3.0 ดังนั้น OS นี้จึงออกแบบมาเพื่อใช้งานบนมือถือทัชเท่านั้น

ซัมซุงต้องการให้มือถือที่ใช้งาน "Bada OS" เป็น Smartphone for everyone คือทุกคนสามารถร่วมพัฒนาได้เต็มที่ (โดยเปิดให้นักพัฒนาโหลด SDK ไปพัฒนาโปรแกรมได้แล้วที่ http://developer.bada.com) Developer สามารถพัฒนาโปรแกรมให้กับมือถือซัมซุงได้อย่างอิสระ โดยไม่จําเป็นต้องเป็นของซัมซุงอย่างเดียวอีกต่อไป ส่วน UI ที่ซัมซุงพัฒนายกเครื่องใหม่นั้น จะหนักเครื่องไปด้านสังคมออนไลน์เป็นหลัก รองรับระบบมัลติทัช รองรับแอพพลิเคชั่นแฟลช และฟีเจอร์-บริการต่างๆ ที่มือถือ Bada มี จะไม่กระทบต่อการพัฒนาโปรแกรมของ Developer อย่างแน่นอน

Bada OS มีพันธมิตรไซส์เบิ้ม 5 รายด้วยกัน ต่างรายก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไปเช่น ทวิตเตอร์ (Twitter), แคปคอม (Capcom), อีเอ (EA), เกมลอฟท์ (Gameloft) และบล็อกบัสเตอร์ (Blockbuster) แน่นอนว่าซัมซุงจะเน้นเอาใจคอหนัง คอทวิตเตอร์ คอเกมอย่างเต็มที่ คาดว่าปลายปี 2010 จะมีผู้ใช้สมาร์ทโฟน Bada OS มาถึง 50 ล้าน User และตั้งเป้าไว้ว่าจะครองส่วนแบ่ง OS ได้ถึง 50% !! ในอนาคตอันใกล้ กลางปีนี้เตรียมตัวพบกับสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ Bada OS อย่าง "Samsung S8500 Wave" แน่นอนว่าในไทยมีวางขายชัวร์ !! เก็บตังรอไว้ได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น